เพิ่มเพื่อน

กระตุกต่อมแม่ ! เพราะลูกคือดวงใจ จะเลี้ยงอย่างไรให้ Born To Be

Last updated: 2 ม.ค. 2567  |  645 จำนวนผู้เข้าชม  | 

กระตุกต่อมแม่ ! เพราะลูกคือดวงใจ จะเลี้ยงอย่างไรให้ Born To Be

กระตุกต่อมแม่ ตอนเพราะลูกคือดวงใจ จะเลี้ยงอย่างไรให้ " Born to be "  By Smartkids 

            ลูกคือมนุษย์ตัวน้อยที่พ่อแม่ทุ่มเทความรักได้อย่างไม่มีเงื่อนไข ซึ่งมันก็สุดจะบรรยายความรักนั้นได้จริงๆละ แต่จะรักแบบไหนไม่ให้รังแกลูก..ไม่สร้างปม...และผลักไสลูกออกจากเราไปเมื่อลูกเติบโตขึ้น เราจึงจำเป็นต้องใส่ใจในสิ่งที่ลูกใช่ และสร้างเส้นบางๆที่จะเกาะเกี่ยวสายใยผูกพันนั้นไว้   

            เคยได้ยินคำว่า Born to be ไม๊ คำนี้มีอยู่จริงและเกิดขึ้นได้ในทุกครอบครัว ถ้าพ่อแม่ใส่ใจและตั้งใจฟังเสียงหัวใจของลูกให้มากพอ !!!!!  

           เพราะในระหว่างการเดินทาง จากประสบการณ์ที่มีอันน้อยนิดของลูก ลูกอาจจะยังไม่รู้เลยว่าสิ่งที่เขาทำมันเหมาะกับเขาหรือไม่  เรามีหน้าที่แค่สนับสนุนทุกสิ่งที่ลูกเป็น และช่วยคัดกรองสิ่งที่ไม่ใช่แน่ๆออกไป  (เพราะลูกคงจะไม่มีความสุขแน่ๆ ถ้าได้อยู่กับสิ่งนั้น)  เป็นการลดโอกาสที่เราจะหลงทางไปได้เยอะทีเดียว

            ความละเอียดอ่อนของเพศแม่จะช่วยในการสังเกตุจริตหรือนิสัยใจคอของลูกได้ดี  ดังตอนต้นๆ ที่ผู้เขียนได้เคยบอกไว้ แต่ในบางครอบครัวผู้เป็นพ่ออาจจะมีความละเอียดอ่อนทางความคิดและช่างสังเกตุได้มากกว่าแม่ก็เป็นได้   แต่ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญว่าจะเป็นแม่หรือพ่อที่จะรับหน้าที่นี้   สำคัญที่จะต้องเป็นที่ปรึกษาซึ่งกันและกัน ควรช่วยกันสังเกตพฤติกรรม นิสัยใจคอ และความเปลี่ยนแปลงของลูกอยู่เสมอๆ

ลูกก็ควรเป็นในสิ่งที่ลูกใช่ !!!!  มิใช่หรือ   

ผู้เขียนขอยกกรณีตัวอย่าง  เรื่องเกือบจะดราม่าที่เกิดขึ้นจริงกับญาติผู้ใหญ่ของผู้เขียนผู้นึงด้วยความเคารพรัก

ในสมัยนั้ย ( เมื่อประมาณ 30 กว่าปีมาแล้ว ) คุณลุงเป็นลูกชายคนเล็กอยู่ในครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง คุณลุงเป็นคนที่มีสติปัญญาดีมาก  เรียนหนังสือเก่งมากตั้งแต่เล็กจนโต เรียนเก่งเกือบทุกวิชา โดยเฉพาะคณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์ เก่งถึงขั้นได้เป็นตัวแทนโรงเรียนไปสอบแข่งขันระดับอำเภอ ระดับจังหวัดอยู่เสมอ หากลงสนามแข่งขันทางวิชาการเมื่อใดก็ไม่เคยทำให้กองเชียร์ผิดหวังสักครั้ง ท่านจะได้คะแนนสูงเป็นอันดับต้นๆ ของจังหวัดเลยทีเดียว

   เมื่อหัวดี เรียนเก่ง ก็ควรเป็นหมอ....  ตามคำแนะนำของคณะครู  และครอบครัวก็เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง   ต่อมาท่านสอบติดคณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยรัฐที่มีชื่อสียง ตามที่ทุกคนหวังไว้  การเรียนแพทย์ของท่านดำเนินไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร  จนกระทั่งขณะที่เรียนแพทย์ในปีสุดท้ายลุงกลับไม่ยอมไปฝึกงาน และได้หายออกจากบ้านไปเป็นเดือน 

    เหตุใด..ที่ท่านหยุดสานฝัน(ของทุกคน)ต่อเช่นนี้ ???? .... มิอาจมีใครรู้ได้

ต่อมาลุงได้กลับบ้านมากราบเท้าเพื่อขอขมาพ่อกับแม่....และให้เหตุผลที่บ้านว่าตลอดเวลาที่เรียนแพทย์  ก็ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ จนเริ่มสับสน  และในที่สุดก็คิดได้ว่า ตัวเองไม่เหมาะกับการเป็นหมอ เพราะไม่ได้ชอบลักษณะงานของหมอ.....!!!!!

    และพี่สาวท่านเล่าให้ฟังในภายหลังว่าพื้นฐานจิตใจของลุงเป็นคนขี้กลัว และขวัญอ่อนมากๆ แต่ก็ยัง  ฝืนใจเรียนมาได้ตั้ง 4 - 5 ปี  คิดดูเหอะว่าลุงจะทุกข์และสับสนมากแค่ไหนกับการทนทำในสิ่งที่ไม่ใช่ตัวตน  แต่ก็ถือว่ายังไม่สายเกินไปเพราะยังกลับตัวได้ทัน

     ลุงเลยเบนเข็มตัวเองมาเรียนทางด้านสายไอทีแทน  ซึ่งแทบต้องนับหนึ่งกันใหม่   เริ่มเรียนใหม่  ในขณะที่เพื่อนคนอื่นได้ทำงานกันแล้ว..... และลุงได้ก็เลือกทำงานอิสระด้านรับจ้างวางโปรแกรมคอมพิวเตอร์อย่างที่ใจรัก

ผู้เขียนได้คติจากเหตุการณ์นี้คือ...  ชีวิตคนเรามันไม่ได้มีตรรกะอะไรที่ซับซ้อนเลย .....

“ การที่เป็นมนุษย์เหมือนกัน  แต่ไม่ได้ทำทุกสิ่งให้ดีได้เหมือนกัน ”  

ส่วนการที่จะชอบหรือไม่ชอบนั่นก็เป็นอีกเรื่องนึง เพราะมันอาจมีหลายปัจจัยที่ทำให้ชอบหรือไม่ชอบได้ ทั้งจากภายในและภายนอก

  ซึ่งบนโลกใบนี้อาจมีคนอยากจะเป็นหมอมากมายแต่ไม่ได้มีผลการเรียนที่ดี  เลยไม่ได้เป็นตามฝัน

.....ก็นับว่าไม่เหมาะ !


ขณะที่มีคนที่ผลการเรียนที่ดีมากจนเรียนหมอได้สบายๆ ......แต่เค้าก็ไม่ได้อยากเป็น .....

.....ก็นับว่าไม่เหมาะ !

 

ฉะนั้นหากเราเลือกเลี้ยงชีพได้ด้วยการทำสิ่งที่เรารัก  และเมื่อมีความรักที่จะทำงานในอาชีพนั้นๆมากพอ  เราก็จะมีพลังจากภายในที่จะพัฒนาตัวเองให้มีศักยภาพในวิชาชีพนั้นมากยิ่งๆขึ้นไป  ทั้งยังมีกำลังใจที่แข็งแกร่งพอที่จะข้ามผ่านอุปสรรคในการทำงานไปได้  และยิ่งจะโชคดีเป็นทวีคูณมากหากเลยเส้นจากระดับความรัก  ขยับขึ้นขั้นมาเป็นความหลงใหล ( Passion ) 

    ดังเช่น  จิตรกรที่มีชื่อเสียงระดับโลก ที่วาดรูปได้ทั้งวี่ ทั้งวัน ( แทบลืมกินข้าวกินปลา ) และทำเช่นนั้นทุกๆวัน โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย หรือเบื่อหน่ายเลย   เพราะเขากำลังทำในสิ่งที่เขาหลงใหล  และทำงานอย่างมีความสุขอยู่ทุกขณะจิต  หรือแม้ในขณะที่จินตนาการถึงงาน

     การทำซ้าบ่อยๆจนชำนาญกลายเป็นพัฒนาทักษะทางศิลป์ให้ลึกล้ำมากขึ้นไปอีก   และท้ายที่สุดรายได้ที่งดงามก็จะตามมาโดยปริยาย    

     เพราะเค้าจะอาชีพที่มีอัตลักษณ์ในแบบที่เค้าสร้างสรรค์มันขึ้นมาเอง    

และหากสมองกับหัวใจได้เต้นในจังหวะเดียวกันแล้ว มันจะทรงประสิทธิภาพเสมอ...!!!!  

                   

#ทักษะชีวิต #Solfskill #พัฒนาเชาว์ปัญญา #แนวข้อสอบสาธิต #ติวสอบป1 #สอนเชาวน์ปัญญา

#ข้อสอบสาธิตป1 #คอร์สติวสาธิต #สาธิตจุฬา #สาธิตเกษตร #สาธิตราม
 

 

 

 

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้